วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เวสป้า กระแส หรือใจรัก


ถ้าจะพูดถึงแฟชั่นยุค 60 หลายๆคนคงจะนึกถึงผมทรงแอฟโร่ เสื้อเชิ้ตลายเจ็บๆ กางเกงขาบาน แว่นตาที่ใหญ่เกือบเท่าใบหน้า รวมไปถึงเพลงดิสโก้ ถึงวันนี้แม้ระยะเวลาจะผ่านไปเกือบ 50 ปีแล้ว แฟชั่นยุคนั้นยังคงไม่หายไปแต่อย่างใด มิหนำซ้ำเรามักจะเห็นวัยรุ่นในสมัยนี้นำแฟชั่นยุค 60 มาผสมผสานกับแฟชั่นสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว และสิ่งที่เรามักจะเห็นคู่กับแฟชั่นยุค 60 ก็คือ มอเตอร์ไซค์ล้อเล็ก รูปร่างชวนสะดุดตา ที่เรียกว่า “เวสป้า” เวสป้าถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี ราวๆ ปีค.ศ.1945 ซึ่งคำว่า “เวสป้า” ในภาษาอิตาลีแปลว่า ตัวต่อ โดยนำมาจากลักษณะของตัวรถนั้นเอง (ท้ายรถมีลักษณะใหญ่เหมือนตัวต่อ) แต่จะด้วยความคลาสิคของตัวรถหรืออะไรก็แล้วแต่ เวสป้าดูเป็นที่ถูกใจของนักสะสมมากพอสมควร จึงไม่แปลกนักที่จะมีชมรมเวสป้าถือกำเนิดขึ้นในบ้านเรา และเรามักพบเห็นเวสป้ากลุ่มใหญ่ตามงานเปิดตัวสินค้าต่างๆ ที่ขับไปตามท้องถนนแล้วมีพริตตี้สาวสวยซ้อนท้าย หรือแม้กระทั่งจากในจอโทรทัศน์กับโฆษณาอีกหลายๆ ชิ้น ฉะนั้นเราไม่อาจปฎิเสธได้เลยว่ารถมอเตอร์ไซค์เวสป้านั้นเปรียบเสมือนรถของแฟชั่นไปตลอดกาลแล้ว และวัยรุ่นยุคนี้ก็หันมาสนใจเวสป้ากันเยอะมากขึ้นกว่าแต่ก่อน “เฮียชัย” เจ้าของร้านสิทธิชัยยนต์ ร้านซ่อมเวสป้า ถ.บำรุงเมือง บอกว่ามีวัยรุ่นมาซ่อมรถที่ร้านก็เยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยนี่ล่ะ มีทั้งขอช่วยหารถให้หน่อย มาฝากขายด้วยก็มี บางทีมาจากต่างจังหวัด ยกขึ้นกระบะเอามาให้ซ่อมถึงที่นี่เลย “จริงๆเดี๋ยวนี้นักศึกษาเขาก็ขับกันเยอะ ลูกค้าที่เป็นผู้หญิงก็มีนะ คือวัยรุ่นเขาอยากได้คันที่ใหม่ๆสวยๆ ซึ่งเราก็ต้องผ่าเครื่องใหม่ทำสีใหม่ ราคาก็ตกอยู่ที่ราว 40,000-60,000 บาท นับว่าแพงกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งก็ต้องว่ากันตามสภาพ ราคานี้ยังไม่นับที่มีทะเบียนนะ มีทะเบียนด้วยยิ่งแพงขึ้นไปอีก เพราะเวสป้ามันรถเก่า ขับกันมากี่คนต่อกี่คนแล้วก็ไม่รู้ ถ้าจะเอาที่แบบเป็นรถเดิมๆ แท้จริงๆ ก็หายาก เพราะมันหลายสิบปีมาแล้วส่วนใหญ่จะเป็นรถประกอบซึ่งมาจากเอาหลายๆรุ่นรวมกัน” “ปอนด์” วัชรพงษ์ นักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นที่ตนเองหันมาสนใจเวสป้าว่า “ตอนนั้นจำได้ว่าประมาณ ม.5 นั่งรถเมล์ไปสวนจตุจักรคนเดียวแล้วรถติดไฟแดงอยู่ พอดีมองไปฝั่งตรงข้ามเห็นเวสป้าสีดำจอดติดไฟแดงคันหนึ่ง เราก็มองว่า เออรถมันสวยดีนะ แปลกดีมันไม่เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ก็เลยชอบตั้งแต่นั้นมา คือถ้าบ้านเราพอพูดถึงเวสป้าก็จะนึกถึงแต่พวกเวสป้าส่งผ้าแบบนั้นไป” หลังจากนั้นปอนด์ก็ได้ศึกษาจากทั้งหนังสือและเว็บไซต์ต่างๆ ว่าเวสป้ามันมีกี่รุ่นกี่แบบกันและมันแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งตอนนี้ปอนด์ก็ได้เป็นเจ้าของเวสป้าสมใจอยาก โดยเขาบอกว่ารุ่นที่เขาขี่คือ รุ่นปี 1964 “ตอนนั้นรู้จักเพื่อนที่สนใจเวสป้าด้วยกัน เขาก็ขี่อยู่ ไปคุยกันอยู่บ่อยๆ ก็ให้เขาช่วยดูให้ พอดีว่าแถวบ้านเพื่อนมีคนแก่เขามีรถเวสป้าพอดี เพื่อนก็บอกให้เราไปดู ปรากฎว่าชอบ เลยซื้อต่อเขามาอีกที แล้วก็เอามาทำเครื่องทำอะไรอีกนิดหน่อย ไม่ได้เน้นแรงมาก เพราะไม่ชอบขับเร็ว แต่แรกๆที่ขี่รถก็มีปัญหาบ้างเหมือนกัน แต่พอไปให้ช่างเขาดู เขาก็บอกปัญหาว่าที่เสียอย่างนี้เป็นเพราะสาเหตุนี้ๆ เราก็เลยแก้ไขไป หรือซ่อมเวลามันเสียได้บ้าง แต่ก็ซ่อมไม่ได้หมดทุกอย่าง” ด้านเจ้าของเวสป้าแรลลี่ 180 สีน้ำเงิน “โจ้” เอกนรินท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เขาชอบรถเวสป้ามาตั้งนานแล้ว “เหตุผลที่โดนใจจริงๆ คือตอนได้ดูมิวสิคเพลงขี้หึงของซิลลี่ฟูลส์ ในมิวสิคเขาขี่เวสป้ากันทั้งวง ดูเท่มาก ถ้าเราได้ขับแบบนั้นบ้างคงมีความสุขดี ก็เลยชอบและสนใจที่อยากซื้อมาขับบ้าง นี่คือจุดแรกเริ่มที่ชอบเวสป้า หลังจากนั้นก็ไปดูไปศึกษามาหมด ตั้งแต่ไปรวมตัวกันที่ ลานพระบรมรูปทรงม้า สะพานมัฆวาน แม็คโคร แถวๆบางกระบือ สามยอดคลองถม จนช่วงนี้เขาไปรวมตัวกันที่รัชดา-ไนท์ แต่ช่วงหลังนี่ก็ ไม่ค่อยได้ไปแล้ว คือการรวมตัวแบบนี้มันจะมีทุกอาทิตย์ มันเหมือนกับเป็นการโชว์รถ แลกเปลี่ยนความเห็นกัน รวมทั้งขายรถด้วย มันก็มีความสุขดีได้คุยเรื่องที่เราชอบด้วยกันหลายๆคน” โจ้เล่าว่าตอนแรกที่อยากเล่นเวสป้าก็ยอมรับว่าซื้อมาเพราะชอบวงซิลลี่ฟูลส์จริงๆ มันก็ดูเหมือนกับตามกระแส แต่พอเล่นไปนานๆแล้ว ซ่อมบ่อยอะไรบ่อย แต่งเยอะด้วย คือหมดไปกับคันนี้เยอะ ว่ากันง่ายๆ เหมือนกับว่าก็มันผูกพันไปโดยไม่รู้ตัวเพราะว่าขี่อยู่เกือบทุกวัน ขี่ไปเรียนด้วย นอกจากไปต่างจังหวัดถึงจะไม่ได้ขี่ เกี่ยวหรือเปล่าที่ขี่รถแบบนี้แล้วผู้หญิงชอบ? “จริงๆแล้วมันก็ไม่เชิงนะ ผู้หญิงที่เขาชอบรถเวสป้าก็มีเยอะพอเห็นขับเขาก็อยากเข้ามาคุยด้วย แต่ไม่ใช่เชิงจีบกัน ถามเรื่องเกี่ยวกับรถมากกว่า” ลองมาฟังทรรศนะจากสาวๆ ดูบ้าง เริ่มที่ “อุ๋ม” น.ส. กนกทิพย์ ด้วงชะอุ่ม น.ศ.ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เธอกล่าวว่า ก็ชอบรถคลาสสิคพวกนี้อยู่เหมือนกัน ทั้งรถเต่า มินิคูเปอร์ หรือเวสป้า เพราะว่ามันดูสวยดีถึงแม้ว่าจะเป็นรถเก่า แต่คนขี่เวสป้าเดี๋ยวนี้แต่งตัวกันดูจะโอเวอร์ไปนิด เหมือนกับว่าจะเท่ แต่มันไม่ได้เท่ในสายตาเธอเลย ออกจะดูตลกไปด้วยซ้ำ “ คิดว่าส่วนใหญ่ซื้อมาเพื่อที่จะเอาไว้โชว์สาวมากกว่า คงจะไม่ได้ชอบหรือรักรถคลาสสิคจริงๆ เท่าไหร่ มีเพื่อนบางคนเล่นไปได้แค่ปีเดียวก็เบื่อ ขายทิ้งไปแล้ว คงเป็นเพราะกระแสมากกว่า หรือบางคนเห็นดาราในทีวีขี่ก็อยากมีบ้าง แต่คิดว่าคนที่เล่นพวกรถคลาสสิคพวกนี้น่าจะมีกำลังทรัพย์มากพอสมควรนะ เพราะไหนจะค่าอะไหล่รถ ซึ่งบางอย่างก็หายาก ค่าแต่งรถ หรือบางทีอาจโดนใบสั่งจากตำรวจอีกเพราะเวสป้าบางคันมันก็ไม่มีทะเบียนซึ่งก็เสี่ยงที่จะถูกตำรวจยึดไปเหมือนกัน” อย่างไรก็ตาม ด้วยความนิยมของคนที่รักเวสป้ามีมาก ทำให้มีการตั้งชมรมคนรักเวสป้าขึ้นตามมหาวิทยาลัยต่างๆ มากมาย ทั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ,พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , วิทยาลัยเพาะช่าง และรวมไปถึงแหล่งนัดพบใหญ่ๆ อย่างเช่นที่ ปากเกร็ดจ.นนทบุรี หรือแถวรังสิต กัน และใครอยากเข้าร่วมกลุ่มก็ลองเลียบๆ เคียงๆ ถามคนที่เขาขี่เจ้า "เวสป้า" อยู่ก็ได้...
ข้อมูลข่าวจาก ผู้จัดการ

ไม่มีความคิดเห็น:

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...